วันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2552

ปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด

ค่ายอบรมเยาวชนต้านภัยยาเสพติดร.ร.ธรรมศาสตร์คลองหลวง
รูปภาพประกอบหน้า 1    รูปภาพประกอบหน้า 2    ข้อมูลเก่า   
                                                                   โครงการโรงเรียนปลอดยาเสพติด
ชื่อโครงการ : โรงเรียนปลอดยาเสพติด
เจ้าของโครงการ : สถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองหลวง
1. หลักการและเหตุผล
                 ปัจจุบันปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด นับวันจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสถานศึกษา ซึ่งผู้ค้ายาเสพติดมุ่งตลาดการขายไปสู่เยาวชนในสถานศึกษา   ลำพังครู อาจารย์ และผู้บริหารของสถานศึกษาไม่สามารถต่อสู้กับปัญหายาเสพติดได้โดยลำพังอย่างมีประสิทธิภาพ  เนื่องจากมีอุปสรรคหลายประการ  โดยเฉพาะอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย  สถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองหลวง  ได้ตระหนักถึงปัญหาที่ทางสถานศึกษาได้รับ  และเพื่อเป็นการช่วยแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา  ชุดปฏิบัติการตำรวจชุมชนมวลชนสัมพันธ์ร่วมกับคณะครู อาจารย์  โรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่อำเภอคลองหลวง จึงร่วมกันหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติด   โดยเน้นให้ครู  อาจารย์  ผู้ปกครอง และนักเรียนสามารถป้องกันตนเองให้พ้นจากภัยยาเสพติด  และควบคุมการแพร่ระบาดยาเสพติดได้
2.  วัตถุประสงค์
       2.1 เพื่อให้โรงเรียนหรือสถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่อำเภอคลองหลวงปลอดยาเสพติด
       2.2 เพื่อให้นักเรียนสามารถป้องกันตนเองจากยาเสพติดได้
       2.3 เพื่อให้ผู้ติดยาเสพติดได้รับการบำบัดรักษาบำบัดรักษาอย่างถูกต้อง และเลิกเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
       2.4 ครู-อาจารย์ ผู้บริหารสามารถควบคุมปัญหายาเสพติดภายในโรงเรียนได้
       2.5 ผู้ปกครองร่วมกับสถานศึกษาและเจ้าหน้าที่ของสถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองหลวง  ร่วมกันป้องกัน และควบคุมปัญหายาเสพติด และตรวจสอบประเมินผลได้ตลอดเวลา
       2.6 เพื่อตัดวงจรการซื้อขายยาเสพติด
3.    แนวทางการดำเนินการ
        3.1 จัดชุดปฏิบัติการตำรวจชุมชนและมวลชนสัมพันธ์ สถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองหลวง  เข้าประสานงานกับผู้อำนวยการสถานศึกษาขอความร่วมมือ เพื่อดำเนินการตามโครงการฯ
        3.2 ประชุมครู  อาจารย์ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่กิจกรรมเกี่ยวกับยาเสพติด และตัวแทนนักเรียน  แจ้งรายชื่อผู้ที่เสพยาเสพติดภายในสถานศึกษา
        3.3 เชิญผู้ปกครอง และขอความร่วมมือให้เข้าร่วมกิจกรรมตามโครงการฯ
        3.4 ให้ทางโรงเรียนทำการจัดกลุ่มเพื่อนเตือนเพื่อน  โดยมีกลุ่มละ 10  คน  ภายในกลุ่มมีหัวหน้ากลุ่ม  1 คน และรองหัวหน้า 2 คน ใน 1 คน จะดูแลเพื่อน 2 คน  โดยมีครู 1 คน เป็นที่ปรึกษา
         3.5 ให้ทางโรงเรียนแบ่งกลุ่มของนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม  โดยให้ทางโรงเรียนทำหนังสือเวียน  แจ้งให้ผู้ปกครองทราบถึงการจัดกลุ่มของนักเรียน   เพื่อให้ทราบถึงจุดมุ่งหมายในการดำเนินการตามโครงการ ฯ มิฉะนั้น จะเกิดความเข้าใจผิด และเกิดปัญหากับผู้ปกครองได้
                     3.5.1  กลุ่มปลอดภัยได้แก่ นักเรียนที่ป้องกันตนเองจากยาเสพติด และไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดได้
                     3.5.2   กลุ่มเสี่ยง  ได้แก่กลุ่มที่มีพฤติกรรมที่เสี่ยง และเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 
                                3.5.2.1  ผู้ที่ผลการเรียนต่ำอย่างผิดปกติ
                                3.5.2.2  ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามกฎของโรงเรียนบ่อยครั้ง เช่นมาโรงเรียนสาย  ไม่เข้าห้องเรียน  ชอบมั่วสุม ฯลฯ
                                3.5.2.3   เป็นผู้ที่สูบบุหรี่
                                3.5.2.4    มีร่างกายซูบซีดผิดปกติ  ยกเว้นผู้มีโรคประจำตัว
                                3.5.2.5   ผู้ที่ทางคณะกรรมการของโรงเรียนเป็นผู้พิจารณาตามพฤติกรรม
                       3.5.3   กลุ่มเสพ ได้แก่ นักเรียนผู้ติดยาเสพติด
              3.6  เข้ารับการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ  ตลอดจนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และแนวทางการปฏิบัติให้กับเด็กนักเรียน และผู้ปกครองทั้งหมด
              3.7  ตำรวจชุดชุมชนและมวลชนสัมพันธ์ สถานีตำรวจภูธรอำเภอคลอหลวง  เข้าตรวจเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง
              3.8  ตรวจสอบผู้ต้องสงสัยภายใน และภายนอกโรงเรียน ที่คาดว่ามีพฤติกรรมเกี่ยวกับยาเสพติด
              3.9  ดำเนินการจับกุมผู้จำหน่ายยาเสพติด  ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกที่นำมาขายให้กับนักเรียน
              3.10 ปฏิบัติการ ตามคำร้องขอจากโรงเรียน เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ฯลฯ
 4.   เป้าหมาย      นักเรียนโรงเรียน ธรรมศาสตร์ คลองหลวง ระดับ   ม.1- 3   จำนวน  300  คน
  5.   ผู้ดำเนินการตามโครงการ
        5.1 สถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองหลวง   ตามบัญชี ภาคผนวก
        5.2 คณะครู  อาจารย์โรงเรียน ธรรมศาสตร์ คลองหลวง  ตามบัญชี ภาคผนวก
        5.3 องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี
        5.4  ผู้ปกครองเด็ก และผู้นำชุมชนประชาชนในพื้นที่
6.   ระยะเวลาดำเนินการ     วันที่  20 ,  21   พฤศจิกายน  2546
7.    หัวข้อการอบรม   ตามผนวก 
8.    สถานที่อบรม            ห้องประชุมโรงเรียน  ธรรมศาสตร์ คลองหลวง
9.    ผู้สนับสนุนและผู้ช่วยเหลือ
        9.1 องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี
      9.2 คณะครู-อาจารย์และกรรมการโรงเรียน
      9.3 เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอคลองหลวง
      9.4  คณะกรรมการโรงเรียน
10. งบประมาณ     ขอรับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี
11.  ผลที่คาดว่าจะได้รับ
        11.1 นักเรียน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยาเสพติด และสามารถป้องกันตนเองได้
       11.2 นักเรียนที่เสพยาเสพติดได้รับการบำบัดรักษาอย่างถูกต้อง
       11.3 ครู  อาจารย์ และนักเรียนมีความสามารถในการแจ้งข่าวเกี่ยวกับยาเสพติดให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไดั้
       11.4 ลดปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติดในสถานศึกษา
       11.5 ผู้ปกครอง ครู อาจารย์  มีศรัทธาต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สถานีตำรวจภูธรอำเภอคลองหลวง  มีความ
               เข้าใจและเกิดความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
12.  การประเมินผล
       12.1 จากการสอบถามครู  อาจารย์ และผู้ปกครอง
       12.2 ประเมินผลจากแบบสอบถาม
       12.3 จากผลการตรวจปัสสาวะ
       12.4 จากประชาชนทั่วไป
        12.5 ผลการจับกุม     

วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ใช้อ้อยต่างแปรง


        กาลนานมาแล้ว    ในสมัยที่โลกยังไม่มีแปรงสีฟันใช้นั้น    มีคหบดีผู้หนึ่งมีความรักใคร่
เอ็นดูบุตรสาวของตนมาก    เพราะบุตรสาวของเขานั้นเป็นหญิงที่งามทั้งใบหน้า    และกริยา

        วันหนึ่งเห็นว่าบุตรสาวของตนชักจะมีขี้ฟันมากเกรอะกรังอยู่ไรฟันเต็มไปหมด
เวลาพูดจาหรือเข้าใกล้ก็มีกลิ่นเหม็นคลุ้ง    คหบดีผู้นั้นคิดว่าถ้าจะปล่อยให้สภาพการณ์
เป็นเช่นนี้ไม่ดีแน่    นอกจากพวกหนุ่มๆที่เข้ามาติดตอมจะเอือมระอาแล้ว    ย่อมเป็นที่
รังเกียจของสังคมด้วย    แต่ก็ไม่กล้าบอกบุตรสาวตรงๆเพราะเกรงบุตรสาวจะอับอาย
จึงได้หาอุบายโดยบอกให้บุตรสาวไปหาอ้อยมากินให้มากๆ    เพื่อผิวพรรณจะได้สวยงาม
ยิ่งขึ้น    ซึ่งจริงๆแล้วอ้อยเหล่านั้นจะได้ช่วยแปรง    และแทะขี้ฟันให้หลุดไปได้

                    

         เขาจึงได้ให้เงินลูกสาวเป็นจำนวนมาก    เพื่อให้ไปหาซื้ออ้อยที่สวนข้างๆบ้านมาไว้กิน
แต่ขณะที่บุตรสาวเดินไประหว่างทางยังไม่ทันถึงสวนอ้อย    เห็นพ่อค้าหาบเผือกต้มสวนทางมา
หล่อนอยากกินเป็นกำลัง    จึงซื้อเผือกกินเสียจนหมดเงินแล้วจึงเดินกลับบ้าน

         บิดาเห็นหล่อนเดินมาแต่ไกลจึงนึกดีใจว่าขี้ฟันของลูกสาวตนคงหมดเกลี้ยงดีแล้ว
แต่ที่ไหนได้พอหล่อนเผยอยิ้มเท่านั้น    ขี้ฟันกลับพอกพูนเกรอะกรังส่งกลิ่นตลบยิ่งขึ้น
เพราะเผือกได้เข้าไปจับเกาะเต็มไปหมด    คหบดีผู้นั้นเกือบล้มทั้งยืน


เห็นแต่ไกล
[ คงกินอ้อยแล้ว ]


ใกล้เข้ามา
[ ขี้ฟันคงหมดแล้ว ]


[ ชัดเลย...หึ่งเชียว ]

คหบดีจึงถามบุตรสาวว่า    "อีหนู   เอ็งไม่ได้ไปซื้ออ้อยกินหรอกหรือ?"

"เปล่าจ้ะพ่อ   ฉันนึกอยากกินเผือกต้ม เลยซื้อกินเสียอิ่ม"   บุตรสาวตอบ

"ชะอีเวร    นี่เองขี้ฟันจึงมากขึ้นตั้งบุ้งกี๋"

         บุตรสาวได้ยินดังนั้นจึงทราบถึงอุบายของบิดา    ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
จึงหมั่นซื้ออ้อยกินทุกๆวัน    ฟันจึงสอาดหมดจดยิ่งขึ้น

            

บทความที่2 เศรษฐีเจ้าเล่ห์กับลูกสาวชาวนา


เศรษฐีคนหนึ่งชอบใจลูกสาวชาวนายากไร้ผู้หนึ่ง
เขาเชิญชาวนากับลูกสาวไปที่สวนในคฤหาสน์ของเขา
เป็นสวนกรวดกว้างใหญ่ที่มีแต่กรวดสีดำกับสีขาว
เศรษฐีบอกชาวนาว่า ..

 
  

 
  

ชาวนาไม่ตกลง
เศรษฐีบอกว่า "ถ้าเช่นนั้นเรามาพนันกันดีไหม
ข้าจะหยิบกรวดสองก้อนขึ้นมาจากสวนกรวดใส่ในถุงผ้านี้
ก้อนหนึ่งสีดำ ก้อนหนึ่งสีขาว 
ให้ลูกสาวของท่านหยิบก้อนกรวดจากถุงนี้
หากนางหยิบได้ก้อนสีขาว ข้าจะยกหนี้สินให้ท่าน 
และนางไม่ต้องแต่งงานกับข้า
แต่หากนางหยิบได้ก้อนสีดำ นางต้องแต่งงานกับข้า 
และแน่นอน ข้าจะยกหนี้ให้ท่านด้วย"

ชาวนาตกลง
เศรษฐีหยิบกรวดสองก้อนใส่ในถุงผ้า
หญิงสาวเหลือบไปเห็นว่ากรวดทั้งสองก้อนนั้นเป็นสีดำ

  เธอจะทำอย่างไร?
หากเธอไม่เปิดโปงความจริง ก็ต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้โกง
หากเธอเปิดโปงความจริง เศรษฐีย่อมเสียหน้า และยกเลิกเกมนี้
แต่บิดาของเธอก็ยังคงเป็นหนี้เศรษฐีต่อไปอีกนาน

ลูกสาวชาวนาเอื้อมมือลงไปในถุงผ้า  หยิบกรวดขึ้นมาหนึ่งก้อน
พลันเธอปล่อยกรวดในมือร่วงลงสู่พื้น
กลืนหายไปในสีดำและขาวของสวนกรวด

เธอมองหน้าเศรษฐี เอ่ยว่า "ขออภัยที่ข้าพลั้งเผลอปล่อยหินร่วงหล่น
แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อท่านใส่กรวด
สีขาวกับสีดำอย่างละหนึ่งก้อนลงไปในถุงนี้
ดังนั้นเมื่อเราเปิดถุงออกดูสีกรวดก้อนที่เหลือ ก็ย่อมรู้ทันทีว่า
กรวดที่ข้าหยิบไปเมื่อครู่เป็นสีอะไร"
ที่ก้นถุงเป็นกรวดสีดำ

"...ดังนั้นกรวดก้อนที่ข้าทำตกย่อมเป็นสีขาว"
ชาวนาพ้นสภาพลูกหนี้ และลูกสาวไม่ต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้โกงคนนั้น  

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552

บทความที่1

วันนี้ข้าพเจ้านางสาวธัญญลักษณ์ เบ็ญสูงเนินได้ศึกษาวิธีการสร้างบล็อก